บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 สร้างสถิติสูงสุดใหม่ (Record High) ด้วยรายได้ 22,814 ล้านบาท เติบโตขึ้น 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยชี้ว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) คือปัจจัยขับเคลื่อนหลักที่สร้างการเติบโตในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ พร้อมเปิดแผนการลงทุนเกือบ 100 ล้านบาท สร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งใหม่ ต่อยอดแพลตฟอร์ม AI สำหรับคู่ค้า และยกระดับคลังสินค้าด้วยระบบอัตโนมัติ
AI: ปัจจัยขับเคลื่อนหลักสู่การเติบโต
สุธิดา มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวในงาน “Synnex Partner Connect 2025” ว่าเทคโนโลยีในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนเปรียบได้กับ “การปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วย AI” ซึ่งเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อวิถีชีวิตและการดำเนินธุรกิจอย่างยิ่ง
“วันนี้เราอยู่ในยุค Agentic AI ซึ่งเป็นขั้นกว่าของ Generative AI AI ไม่ได้ทำหน้าที่แค่สร้างคอนเทนต์ แต่สามารถเป็นผู้ช่วยหรือตัวแทน (Agent) ที่ลงมือทำงานให้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยตัวเอง เช่น การจัดซื้อสินค้าตามต้องการ หรือจัดการการเดินทางให้ทั้งหมด”
สุธิดา กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างโอกาสทางธุรกิจมหาศาล โดยข้อมูลชี้ว่าพนักงานออฟฟิศในไทย 9 ใน 10 คน เริ่มนำ AI มาใช้ในการทำงานแล้ว ขณะที่บริษัทที่เป็น “AI Native” หรือมี AI เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาสินค้าและบริการ มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏการณ์นี้ส่งผลโดยตรงให้ความต้องการอุปกรณ์ไอทีที่รองรับ AI เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานในองค์กร และเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ซินเน็คฯ สร้างรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่ทำรายได้ทะลุ 40,000 ล้านบาท
ทุ่ม 100 ล้านบาทสร้างอนาคตธุรกิจชู 3 แกนหลัก
เพื่อรองรับการเติบโตและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระยะยาว ซินเน็คฯ ได้เปิดเผยแผนการลงทุนมูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท โดยมุ่งเน้น 3 ส่วนหลักที่จะเป็นรากฐานสำคัญของธุรกิจในอนาคต
- Innovation Center โชว์รูมโซลูชัน Multi-brand แห่งแรก (มูลค่าลงทุน 25-30 ล้านบาท) ซินเน็คฯ จะสร้างศูนย์จัดแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ “Technology Showcase” ณ สำนักงานใหญ่ ซึ่งมีความโดดเด่นจากการเป็นโชว์รูมโซลูชันแห่งแรกในไทยที่รวบรวมผลิตภัณฑ์จากหลากหลายแบรนด์ (Multi-brand) มาจัดแสดงร่วมกัน พื้นที่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยปิดการขายให้แก่คู่ค้าโดยเฉพาะ โดยสามารถนำลูกค้าองค์กรเข้ามาสัมผัสประสบการณ์จริงของโซลูชันต่าง ๆ และเลือกผสมผสานเทคโนโลยีจากแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์งบประมาณและความต้องการได้อย่างสมบูรณ์แบบ
- ต่อยอด AI TRUST ONE และ AI ภายในองค์กร (มูลค่าลงทุนประมาณ 30 ล้านบาท) งบประมาณส่วนนี้จะใช้ต่อยอดการพัฒนา “AI TRUST ONE” แพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับคู่ค้า (Dealer) ให้ทำหน้าที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง สามารถวิเคราะห์ข้อมูล แนะนำสินค้า แจ้งเตือนโปรโมชัน ไปจนถึงช่วยปิดการขาย นอกจากนี้ยังรวมถึงการนำ AI มาปรับใช้ในกระบวนการทำงานภายในของซินเน็คฯ เอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน
- ปฏิวัติคลังสินค้าด้วยระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ (มูลค่าลงทุนกว่า 20 ล้านบาท) ซินเน็คฯ จะยกระดับระบบคลังสินค้าครั้งใหญ่ด้วยการนำเทคโนโลยีหุ่นยนต์แขนกล (Robotics) เข้ามาใช้ในกระบวนการจัดการสต็อกสินค้า ซึ่งจะทำให้เป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมไอทีของไทยที่นำระบบอัตโนมัตินี้มาใช้งาน เพื่อเพิ่มความเร็ว ความแม่นยำ และประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโลจิสติกส์
โดยโครงการทั้งหมดมีกำหนดเปิดให้เข้าชมในงาน Open House ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
เจาะลึกรายผลิตภัณฑ์และแนวโน้มตลาด
สุธิดากล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาดในแต่ละกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยชี้ว่า การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนตลาดที่สำคัญในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ Apple มีสัดส่วนรายได้คิดเป็นประมาณ 30-35% ของรายได้รวมทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ตลาด Wearable Devices และ Health Tech ถือเป็นตลาดดาวรุ่งที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในระดับร้อยเปอร์เซ็นต์ จากกระแสการดูแลสุขภาพที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญมากขึ้น ส่วนตลาดเกมมิ่งยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดยการเปิดตัว Nintendo Switch 2 ได้รับการตอบรับที่ดี และคาดว่าจะได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากการเปิดตัวเกมใหม่ ๆ ในงาน “Thailand Game Show” ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มนี้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท
ในภาพรวมเศรษฐกิจ คุณสุธิดา ระบุว่าบริษัทได้รับอานิสงส์เชิงบวกจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งช่วยลดต้นทุนการนำเข้าสินค้าได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องจับตามองคือเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งหากมีความชัดเจนจะส่งผลให้การเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐในโครงการต่าง ๆ เดินหน้าต่อ และกลายเป็นปัจจัยบวกสำคัญอีกระลอก
ท้ายที่สุด ซินเน็คฯ ยังคงย้ำจุดยืนในการเป็น “Your Trusted Partner” หรือพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากทั้งแบรนด์และคู่ค้า โดยมุ่งมั่นที่จะนำเสนอโซลูชันที่สร้างมูลค่าเพิ่ม และสนับสนุนให้ระบบนิเวศทางธุรกิจเติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
LINE MAN Wongnai บุกสมรภูมิใหม่ คว้า JERA Cloud คุมตลาดเทคฯ ความงาม
วิจัยกรุงศรีชี้เศรษฐกิจ H2/68 โตแค่ 1.3% พิษส่งออก-ท่องเที่ยวฉุด