Share on
×

Share

คณะแพทย์ มช. จับมือ IBM พัฒนา Agentic AI ยกระดับบริการห้องแล็บโรงพยาบาล

คณะแพทย์ มช. จับมือ IBM พัฒนา Agentic AI ยกระดับบริการห้องแล็บโรงพยาบาล

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ไอบีเอ็ม แถลงความร่วมมือ โครงการนําร่องใช้เทคโนโลยี Generative AI สนับสนุนการวินิจฉัย และการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการอัตโนมัติครบวงจร บนพื้นฐานของข้อมูลที่โปร่งใสเชื่อถือได้ ภายใต้ระบบธรรมภิบาล AI (AI Governance) มาตรฐานโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ลดเวลาการรอรับบริการของผู้ป่วย พร้อมสนับสนุนการตัดสินใจของแพทย์ด้วยข้อมูลเชิงลึกรอบด้านที่ถูกต้อง แม่นยํา สร้างความมั่นใจ เพิ่มคุณภาพ และเพิ่มความรวดเร็วในการรักษา

โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ดำเนินงานภายใต้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ มีเตียงผู้ป่วย 1,400  เตียง ได้รับการรับรองมาตรฐาน AHA 2 ครั้ง ได้รับการรับรอง PDSC 16 โปรแกรม และทาง HAIT ระดับ 2 เป็นที่แรกของโรงพยาบาลรัฐบาล มุ่งเน้นการเป็นโรงพยาบาลในดวงใจ ด้วยกลยุทธ์การเป็นเลิศด้านบริการผ่านระบบ Digital Transformation

โครงการความร่วมมือนี้ถือเป็นอีกก้าวความสําเร็จ ต่อเนื่องจากการเปิดตัวห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรของทางโรงพยาบาลฯ เมื่อเดือนที่ผ่านมา ที่เชื่อมโยงกระบวนการไร้รอยต่อ แห่งแรก และแห่งเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  

ศ.(เชี่ยวชาญพิเศษ)นพ.บรรณกิจ โลจนาภิวัฒน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. เปิดเผยว่า “คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับ ทีม IBM Client Engineering พัฒนาโมเดลด้วย watsonx.data และ watsonx.ai เพื่อสนับสนุนและผนวกการทํางานของระบบปฏิบัติการทางการแพทย์ หรือแล็บต่าง ๆ เข้าด้วยกันแบบครบวงจร โดยเชื่อมโยงข้อมูลผู้ป่วยย้อนหลัง ผลตรวจจากห้องปฏิบัติการต่างๆ และงานวิจัยทางการแพทย์ เพื่อวิเคราะห์เชิงลึกและเป็นข้อมูลประกอบสนับสนุนการวินิจฉัยของแพทย์ และเอื้อให้แพทย์สามารถส่งคําสั่งตรวจแล็บเพิ่มเติมได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านการป้อนข้อมูลแบบระบบมือ (Manual) นอกจากนี้ ระบบยังสามารถเชื่อมโยงตารางการให้บริการของแล็บอัตโนมัติ พร้อมบริหารจัดการผลตรวจให้พร้อมสําหรับการนัดหมายติดตามอาการของแพทย์ในครั้งต่อไป  

นอกจากระบบดังกล่าวจะลดความผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลระบบมือ (Manual) และการส่งต่อข้อมูลข้ามระบบแล้ว ยังเชื่อมโยงการตรวจแล็บต่างๆ อาทิ การตรวจเลือด การตรวจวินิจฉัยโรคด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI) ฯลฯ อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความถี่ในการมาโรงพยาบาลโดยไม่จําเป็น ขณะเดียวกันการบริหารจัดการการนัดหมายและการตรวจเพิ่มเติมต่างๆอย่างครบวงจร ยังช่วยลดเวลาการรอของผู้ป่วยลงได้อย่างมีนัยยะสําคัญ 

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นับเป็นองค์กรนำร่องแห่งแรกในการนําเทคโนโลยีทั้งหมดมาใช้ และให้ความสําคัญกับการวางรากฐานของข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ (trusted data) ปราศจากอคติ โดยมองถึงการนําระบบธรรมภิบาล AI มาใช้ตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเป็นส่วนสําคัญที่ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและความแม่นยําของระบบ AI (trustworthy AI) ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว สร้างความมั่นใจให้ผู้ป่วยที่ใช้บริการที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่”  

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มช. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ที่ผ่านมาโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ได้นําร่องการนํา AutoAI มาช่วยสนับสนุนการพัฒนาแอปฯบริการผู้ป่วยและการรักษาในอนาคตของทีมนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของคณะแพทยศาสตร์ มช. โดยช่วยสนับสนุนการเขียนโค้ด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและร่นระยะเวลาในการพัฒนาแอปต่าง ๆ รองรับการสนับสนุนการรักษา และการบริการคนไข้ในอนาคต

watsonx ถือเป็นสิ่งที่ตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วย ทั้งในแง่ความน่าเชื่อถือปลอดภัย และโปร่งใสของระบบ และการให้บริการสุขภาพที่ได้มาตรฐานระดับสากลตามนโยบายการก้าวสู่ Digital faculty

อโณทัย เวทยากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จํากัด “วันนี้ไม่มีใครปฏิเสธความสามารถของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI แต่สิ่งที่สร้างความแตกต่างให้กับโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คือการให้ความสําคัญด้าน digital platform กับระบบ AI และข้อมูลที่เชื่อถือได้ มีความเที่ยงตรง และอยู่ในกรอบธรรมาภิบาลด้านการแพทย์ เพราะเป็นสิ่งที่จะสะท้อนผ่านคุณภาพการรักษาและการบริการผู้ป่วยโดยตรง”

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เปิดแผนยุทธศาสตร์ KBTG …. The Year of Agentic AI 2025

NVIDIA ประกาศจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา AI ในเวียดนาม

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน