Share on
×

Share

ดีพร้อมปั้น ‘Hero Brand’ เครื่องสำอางไทย ชู Soft Power สู่สากล หวังดันมูลค่าเศรษฐกิจ 62 ล้านบาท

ดีพร้อมปั้น 'Hero Brand' เครื่องสำอางไทย ชู Soft Power สู่สากล หวังดันมูลค่าเศรษฐกิจ 62 ล้านบาท

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) เดินหน้ายกระดับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย เปิดตัว “กิจกรรมการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์และผลิตภัณฑ์สู่ Fashion Hero Brand” มุ่งสร้างแบรนด์ต้นแบบกิจการให้สามารถแข่งขันในตลาดโลก โครงการนี้เน้นการผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้ากับวัฒนธรรมสร้างสรรค์สมัยใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดสากล และสนับสนุนยุทธศาสตร์ Soft Power ของประเทศ โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 62 ล้านบาท

โครงการ “Fashion Hero Brand” เป็นความพยายามเชิงกลยุทธ์ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย โดยมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและมีอัตลักษณ์ชัดเจน สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เป้าหมายคือการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการเครื่องสำอางไทย เน้นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ (Brand Image) และผลิตภัณฑ์ให้มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำในระดับสากล ผ่านให้คำปรึกษาเชิงลึกแบบเฉพาะราย เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ควบคู่ไปกับการยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นและทุนทางวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยให้กลายเป็น “วัฒนธรรมสร้างสรรค์” (Creative Culture) ที่มีความร่วมสมัย สามารถสื่อสารและตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของตลาดโลกได้จริง

เป้าหมายสูงสุดคือการปั้น “Hero Brand” หรือแบรนด์ต้นแบบที่ไม่เพียงแต่ทันสมัยและแตกต่าง แต่ยังต้องมีคุณค่าที่จับต้องได้และสื่อถึงความเป็นไทยในมิติใหม่ที่น่าสนใจ โครงการ “Fashion Hero Brand” เปรียบเสมือนการนำร่องโมเดลการพัฒนาที่เข้มข้นและเฉพาะเจาะจง ซึ่งหากประสบความสำเร็จก็สามารถนำไปปรับใช้กับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ดีพร้อมให้การสนับสนุนได้ต่อไป  

บ่มเพาะ “Fashion Hero Brand”: จากแนวคิดสู่ผลิตภัณฑ์จริง

ผู้ประกอบการจำนวน 25 รายที่ผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น จะได้เข้าร่วมกระบวนการพัฒนาที่ครอบคลุมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ  กิจกรรมสำคัญในกระบวนการนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างศักยภาพรอบด้าน ประกอบด้วย:

  • การฝึกอบรมที่มุ่งเน้นให้ผู้ประกอบการค้นพบ ‘คุณค่าในตัวเอง’ และอัตลักษณ์ที่แท้จริงของแบรนด์ เพื่อเป็นรากฐานในการสร้างความแตกต่าง
  • การให้คำปรึกษาเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาภาพลักษณ์แบรนด์ การวางกลยุทธ์การตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ
  • การเสริมสร้างทักษะในการบริหารจัดการสื่อการตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในยุคดิจิทัล รวมถึงการฝึกฝนการออกแบบและผลิตคลิปวิดีโอโปรโมตเพื่อเผยแพร่ผ่านสื่อ Social Media อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การศึกษาดูงานจากโรงงานต้นแบบและแบรนด์เครื่องสำอางไทยที่ประสบความสำเร็จในตลาด เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเรียนรู้จากประสบการณ์จริง
  • การเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทดสอบตลาดจริง เพื่อประเมินผลตอบรับจากผู้บริโภคโดยตรง และสร้างโอกาสทางธุรกิจที่เป็นรูปธรรม

กระบวนการพัฒนาที่เข้มข้นและรอบด้านนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการอย่างแท้จริง การฝึกอบรมและให้คำปรึกษาเชิงลึกในด้านการสร้างแบรนด์ การตลาด และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ถือเป็นการตอบโจทย์ความต้องการทักษะที่จำเป็นสำหรับการแข่งขันในตลาดโลกโดยตรง

ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย

อุตสาหกรรมเครื่องสำอางและความงามของไทยถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง ผู้ประกอบการยังต้องเผชิญกับความท้าทายและการแข่งขันที่เข้มข้น

ดวงดาว ขาวเจริญ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในปี 2567 ธุรกิจเครื่องสำอางไทยมีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 2.81 แสนล้านบาท การเติบโตนี้ได้รับแรงหนุนจากกระแสความนิยมในการใส่ใจสุขภาพและความงามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบทบาทของตลาดอีคอมเมิร์ซที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายและกว้างขวางยิ่งขึ้น ตัวเลขมูลค่าตลาดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงขนาดและพลวัตของอุตสาหกรรมนี้ การเติบโตนี้มาพร้อมกับการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้การสร้างความแตกต่างและความโดดเด่นของแบรนด์กลายเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อความสำเร็จ แม้ว่าตลาดเครื่องสำอางไทยจะมีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่อุตสาหกรรมนี้ยังคงเผชิญกับความท้าทายสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้หลายแบรนด์ยังไม่สามารถเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้เท่าที่ควร

นอกจากนี้ การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานสากล รวมถึงการออกแบบบรรจุภัณฑ์และตัวผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง ยังคงเป็นประเด็นที่ผู้ประกอบการจำเป็นต้องให้ความสำคัญและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความท้าทายเหล่านี้ตอกย้ำถึงความจำเป็นของโครงการอย่าง “Fashion Hero Brand” ที่มุ่งเน้นการเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะการสร้างอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่ง การยกระดับคุณภาพ และการนำวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม  

ดีพร้อมคาดการณ์ว่าโครงการ “Fashion Hero Brand” จะสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้กว่า 62 ล้านบาท  อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่สำคัญยิ่งกว่าตัวเลขทางเศรษฐกิจในระยะสั้น คือการสร้าง “Hero Brand” ที่จะเป็นต้นแบบ (role model) ให้กับผู้ประกอบการรายอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางไทย แบรนด์เหล่านี้จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าการนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยมาผสานกับกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ที่ทันสมัยสามารถนำไปสู่ความสำเร็จในระดับสากลได้จริง ซึ่งจะช่วยยกระดับแบรนด์เครื่องสำอางไทยโดยรวมให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในตลาดโลกมากขึ้น นอกจากนี้ โครงการยังมุ่งขยายโอกาสทางการตลาดและสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการสามารถเติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในระยะยาว

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เซ็นทรัลพัฒนา เปิดตัว ‘เซ็นทรัลพัฒนากรีนโกรท’ มุ่งลดคาร์บอน

กรุงศรี ออโต้ ดัน ‘GO Auto Station’ บุกตลาดรถมือสองออนไลน์ พร้อมสินเชื่อดิจิทัลครบวงจร

×

Share

ผู้เขียน