Share on
×

Share

Google Search ไม่เหมือนเดิม: สรุปกลยุทธ์ธุรกิจที่ต้องปรับตัวในยุค AI

Google Search ไม่เหมือนเดิม: สรุปกลยุทธ์ธุรกิจที่ต้องปรับตัวในยุค AI

การมาถึงของ AI Overview และ AI Mode บน Google กำลังเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการค้นหาของผู้คน จากการใช้ “คีย์เวิร์ด” สู่ “บทสนทนา” ที่ซับซ้อน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์

Nerd Optimize เผยกลยุทธ์การปรับตัว 3 ด้าน ทั้งการเตรียมความพร้อมทางเทคนิคของเว็บไซต์ การสร้างคอนเทนต์ที่เฉพาะเจาะจง และการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อให้ธุรกิจยังคงอยู่รอดและเติบโตได้ในสมรภูมิการค้นหาที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ

ณ เวที TDA Next 2025 ไอซ์-ศิริพงษ์ กลิ่นขจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Nerd Optimize ได้ฉายภาพความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกการค้นหาในหัวข้อ “Age of AI Search” ซึ่งกำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักการตลาด เจ้าของธุรกิจ และนักพัฒนาทุกคน พร้อมชี้แนะแนวทางการปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในวันที่ Search Engine ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

จุดเปลี่ยนสำคัญ: เมื่อพฤติกรรมผู้ใช้และเทคโนโลยีมาบรรจบกัน

ศิริพงษ์ เริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการค้นหาของตัวเราเอง จากเดิมที่เคยค้นหาด้วยคำสั้น ๆ เช่น “โรคเกาต์ อาการ” ปัจจุบันผู้คนเปลี่ยนไปค้นหาในรูปแบบประโยคสนทนาที่ซับซ้อนและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น “กินเกาเหลาหมูตุ๋นทำให้ค่ากรดยูริกสูงไหม”

การเปลี่ยนแปลงนี้สอดรับกับการที่ Google ได้นำ Generative AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผลการค้นหาอย่างเต็มรูปแบบ ผ่าน 2 ฟีเจอร์หลัก ได้แก่ 1. AI Overview คือ การสรุปคำตอบโดย AI ที่จะปรากฏอยู่ส่วนบนสุดของหน้าผลการค้นหา ทำให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่ต้องการทันทีโดยไม่จำเป็นต้องคลิกเข้าไปยังเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งศิริพงษ์ระบุว่านี่คือจุดที่น่ากังวลที่สุดสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ เพราะหมายถึงโอกาสที่ทราฟฟิกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

และ 2. AI Mode คือ แท็บการค้นหาใหม่ที่ทำงานเสมือนนำ Generative AI อย่าง Gemini มาไว้ในหน้าค้นหาโดยตรง เปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถถาม-ตอบและค้นหาข้อมูลในเชิงลึกแบบสนทนาได้อย่างต่อเนื่อง

“กลไกได้เปลี่ยนไปแล้ว จากเดิมที่ผู้ใช้ค้นหาและ Search Engine นำเสนอเว็บไซต์ให้โดยตรง ตอนนี้มี AI เข้ามาเป็น ‘ตัวกลาง’ เมื่อเราค้นหา AI จะทำการวิเคราะห์คำถาม, แตกแขนงประเด็นย่อยๆ (Fan Out) แล้วจึงวิ่งไปหาข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อนำมาประมวลผลและสรุปเป็นคำตอบให้เรา”

ศิริพงษ์ชี้ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจาก AI Overview มากที่สุดคือ กลุ่มสุขภาพ (Healthcare) ซึ่งหมายความว่าเว็บไซต์ในกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียทราฟฟิกมากที่สุด และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็กำลังเผชิญกับความท้าทายในลักษณะเดียวกัน

3 กลยุทธ์หลักเพื่อพิชิตสมรภูมิ AI Search

เมื่อภูมิทัศน์เปลี่ยนไป วิธีการเดิม ๆ ย่อมใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป ศิริพงษ์ได้สรุปแนวทางการปรับตัวสำหรับธุรกิจออกมาเป็น 3 แกนหลักที่ต้องทำควบคู่กันไป

  1. เตรียมเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับ AI (Technical Readiness)

    ก่อนที่ AI จะดึงข้อมูลของเราไปนำเสนอได้ อันดับแรกคือการ “เปิดประตู” ให้ AI เข้ามาเก็บข้อมูลได้อย่างสะดวก ซึ่งประกอบด้วย:
    • robots.txt: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้มีการปิดกั้นบอทของ AI เช่น ChatGPT หรือ Google AI ควรอนุญาตให้บอทเหล่านี้เข้ามาเก็บข้อมูลในเว็บไซต์ได้
    • LLM.txt: เทคโนโลยีใหม่ที่เปรียบเสมือนการให้ข้อมูลเบื้องต้นกับ AI ว่าเว็บไซต์ของเราเกี่ยวกับอะไร เพื่อให้ AI เข้าใจบริบทได้รวดเร็วและแม่นยำขึ้น
    • AI Card: สำหรับ ChatGPT โดยเฉพาะ การติดตั้งสคริปต์นี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้ ChatGPT ดึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของเราไปใช้งานได้ง่ายขึ้น
  2. ปรับกลยุทธ์คอนเทนต์ให้เฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น (Content Strategy)

    ในยุคที่ AI สามารถสรุปข้อมูลพื้นฐานได้ การสร้างคอนเทนต์จึงต้องลงลึกและตอบโจทย์ที่เฉพาะเจาะจง (Specific) มากกว่าเดิม
    • Structured Data (Schema Markup): การใส่โค้ดเพื่ออธิบายให้ Search Engine และ AI เข้าใจว่าเนื้อหาส่วนต่าง ๆ คืออะไร (เช่น นี่คือบทความ, นี่คือสูตรอาหาร, นี่คือข้อมูลสินค้า) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ AI ดึงข้อมูลไปแสดงผลได้ง่ายขึ้น
    • สร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ Super Long-Tail Keyword: แทนที่จะสร้างคอนเทนต์กว้างๆ เช่น “โปรแกรม HR” ควรสร้างคอนเทนต์ที่เฉพาะเจาะจงลงไปอีก เช่น “โปรแกรม HR สำหรับ SME พนักงาน 30 คน” หรือ “คลินิกเสริมความงามสำหรับผู้ชายวัย 40-60 ปี” เพื่อให้ตรงกับคำถามที่ซับซ้อนของผู้ใช้และกลไกการแตกแขนงคำถามของ AI
  3. สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในทุกช่องทาง (Branding & Omnichannel)

    เมื่อการแข่งขันในหน้าผลการค้นหาดุเดือดขึ้น ความน่าเชื่อถือและอำนาจของแบรนด์ (Brand Authority) จะกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ AI ใช้พิจารณา โดยมี 3 องค์ประกอบหลักคือ
    • Brand Web Mentions: ทำให้แบรนด์ถูกกล่าวถึงในเว็บไซต์อื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข่าว PR, บทความรีวิว หรือแม้แต่ในแพลตฟอร์มวิดีโออย่าง YouTube
    • Brand Anchors: เมื่อมีการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่นกลับมายังเว็บของเรา ควรใช้ “ชื่อแบรนด์” เป็นข้อความในลิงก์ (Anchor Text) เพื่อตอกย้ำให้ AI รู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น
    • Brand Search Volume: ทำการตลาดเพื่อกระตุ้นให้มีคนค้นหา “ชื่อแบรนด์” ของเราโดยตรงมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือและความนิยมของแบรนด์

การปรับตัวในยุค AI Search ไม่ใช่แค่เรื่องของ SEO อีกต่อไป แต่เป็นการผสมผสานระหว่างเทคนิคที่ลึกซึ้ง คอนเทนต์ที่เฉียบคม และการสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

“เว็บไซต์ต้องพร้อม คอนเทนต์ต้องเฉพาะเจาะจง และแบรนด์ต้องเป็นที่รู้จักในทุกช่องทาง นี่คือหนทางที่จะทำให้เราไม่เพียงแค่รอด แต่ยังสามารถเติบโตได้ในยุคแห่งการค้นหาที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล” ศิริพงษ์กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

AI สู้โลกร้อนพลิกเกษตรไทย: เมื่อข้อมูลคือทางรอดของ ‘เกษตรกรรายย่อย’

พลิกเกม AI ไทย: ถึงเวลาสร้าง ‘ต้มยำโมเดล’ อย่าวิ่งแข่งในสนามเดิม

×

Share

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้เขียน