Share on
×

Share

โกโกลุก เปิดตัว Whoscall โฉมใหม่ ผสาน AI และพลังชุมชน ป้องกันภัยมิจฉาชีพ

โกโกลุก เปิดตัว Whoscall โฉมใหม่ ผสาน AI และพลังชุมชน ป้องกันภัยมิจฉาชีพ

บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) เผยโฉม Whoscall เวอร์ชันใหม่ในงาน Whoscall Trust Conference Bangkok 2025 เปลี่ยนจาก Caller ID สู่แพลตฟอร์มปกป้องภัยดิจิทัลครบวงจร ผสานเทคโนโลยี AI กับพลังชุมชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก สะท้อน 15 ปีแห่งการพัฒนาเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้คนไทย ด้วยระบบรายงานมิจฉาชีพและฟีเจอร์ใหม่ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

การเดินทางของโกโกลุกเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2553 เมื่อ Whoscall เปิดตัวครั้งแรกในฐานะแอปพลิเคชัน Caller ID ที่ช่วยระบุตัวตนผู้โทรเข้าอย่างง่ายดาย เพื่อแก้ปัญหาการโทรศัพท์หลอกลวงที่เริ่มแพร่ระบาดในยุคแรกของสมาร์ทโฟน ในช่วงแรก โกโกลุกมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างรวดเร็ว โดยอาศัยฐานข้อมูลที่รวบรวมจากผู้ใช้งานทั่วโลก ซึ่งกลายเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดพลังจากชุมชนที่ผู้ใช้สามารถรายงานเบอร์มิจฉาชีพเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น

วิกฤติความเชื่อมั่นที่สั่นคลอนสังคมไทย

จากรายงาน Whoscall Report 2025 ซึ่งเป็นการสำรวจกลุ่มตัวอย่างคนไทย 1,000 คน พบว่า ภัยหลอกลวงกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ โดยมีตัวเลขที่สะท้อนถึงวิกฤตการณ์อย่างชัดเจน นั่นคือ 72% ของผู้ตอบแบบสอบถามเคยเผชิญกับกลโกงหรือมิจฉาชีพ 60% เคยตกเป็นเหยื่อ และที่น่ากังวลที่สุดคือ ความเสียหายรวมจากภัยเหล่านี้ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงเกินกว่า 115,000 ล้านบาท

 “ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่สถิติธรรมดา แต่สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่พังทลายลงในชีวิตดิจิทัลของเรา” แมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) กล่าว

“ Whoscall เชื่อว่านวัตกรรมจะมีความหมายก็ต่อเมื่อสามารถยกระดับความเชื่อมั่นเหล่านั้นได้ นั่นคือเหตุผลที่พันธกิจใหม่ของบริษัทฯ คือการส่งเสริมความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในสังคมไทยผ่านพลังของนวัตกรรมและผู้คน เราต้องการเสริมพลังให้กับชุมชน สร้างความมั่นใจ และร่วมกันสร้างอนาคตดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน”

โกโกลุกวางยุทธศาสตร์หลัก 3 ประการในการขับเคลื่อนภารกิจนี้ ได้แก่ การยกระดับ Whoscall ให้เป็นแพลตฟอร์มปกป้องภัยดิจิทัลอย่างรอบด้าน การขยายเครือข่ายพันธมิตรทั่วประเทศเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย และการสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยเน้นย้ำว่าทั้ง 3 ส่วนนี้จะทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า นั่นคือการร่วมกันสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคนในประเทศไทย

จาก AI สู่ ‘AI +พลังชุมชน’

โกโกลุก เปิดตัว Whoscall โฉมใหม่ ผสาน AI และพลังชุมชน ป้องกันภัยมิจฉาชีพ

ฐิตินันท์ สุทธินราพรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) ได้ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงของภัยมิจฉาชีพที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการปลอมแปลงตัวตนและเสียง ทำให้แยกแยะได้ยากว่าสายที่โทรเข้ามาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ธนาคาร หรือแม้กระทั่งเป็นคนใกล้ตัวอย่างแม่หรือลูกที่โทรมาหลอกลวง ดังนั้น การป้องกันภัยในยุคนี้จึงต้องอาศัยแนวคิดใหม่ นั่นคือ AI +พลังชุมชน

“AI มีความฉลาด แต่เราต้องการความแข็งแกร่งของชุมชนเข้ามาร่วมกันถึงจะสามารถทำให้เกิดการปกป้องที่แท้จริงได้” ฐิตินันท์กล่าว

และนั่นคือที่มาของการเปิดตัว Whoscall Live Protection Platform ซึ่งขับเคลื่อนด้วยแกนหลัก 3 ประการ คือ

  1. การปกป้อง (Protection) Whoscall ได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถป้องกันตัวเองได้ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อ โดยนอกจากฟีเจอร์ Caller ID ที่เป็นหัวใจหลักมาตั้งแต่เปิดตัว ยังได้เพิ่มความสามารถที่ล้ำสมัยอย่าง Live Caller ID Plus สำหรับผู้ใช้ iOS เพื่อระบุเบอร์โทรศัพท์น่าสงสัยแบบเรียลไทม์ และฟีเจอร์ All-in-One Scam Checker ที่สามารถตรวจสอบความเสี่ยงของรูปภาพ ข้อความ หรือลิงก์ได้ในที่เดียว รวมถึง ID Security ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลส่วนตัว เช่น เบอร์โทรศัพท์หรืออีเมล เคยรั่วไหลสู่โลกออนไลน์ไปที่ไหนบ้าง เพื่อให้สามารถป้องกันตัวได้ทันท่วงที
  2. พลังชุมชน (Community) เปลี่ยนผู้ใช้เป็นผู้พิทักษ์ผ่านระบบรายงานมิจฉาชีพที่ผสานกับ Badge System เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วม และ Whoscall Mission ที่ให้ผู้ใช้สะสมแต้มจากการเช็กอิน รายงาน หรือแนะนำเพื่อน และสามาถนำไปแลกรางวัลจากพันธมิตรเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ชุมชนช่วยกันรายงานภัยคุกคาม
  3. นวัตกรรมสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ (Innovation to enhance every lifestyle) เพื่อให้ทันกับกลโกงที่มาในทุกรูปแบบ Whoscall จึงได้พัฒนาฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ เช่น Scam SOS ซึ่งเป็นฟีเจอร์แรกที่ปล่อยในประเทศไทย โดยจะให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อว่าควรติดต่อใครและอายัดบัญชีอย่างไร นอกจากนี้ยังมี Voice Alert นวัตกรรมสำหรับประเทศไทยที่ออกแบบมาเพื่อผู้พิการทางสายตาหรือผู้ที่กำลังทำกิจกรรมอื่นอยู่ โดยจะมีเสียงเตือนเมื่อมีสายที่น่าสงสัยโทรเข้ามา และ Scam Alert พื้นที่ภายในแอปที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกลโกงใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานรู้เท่าทันอยู่เสมอ

ผนึกกำลังพันธมิตร ร่วมสร้างสังคมที่ไร้มิจฉาชีพ

กชศร ใจแจ่ม Commercial Director บริษัท โกโกลุก (ประเทศไทย) เน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบนิเวศแห่งความร่วมมือและการขยายชุมชนผ่านพันธมิตร โดยยกตัวอย่างความร่วมมือกับรายการโหนกระแส เพื่อแก้ไขปัญหาการแอบอ้างเป็นทีมงานรายการเพื่อหลอกลวงผู้คน โดย Whoscall ได้เปิดปุ่ม “เรื่องต้องถึงโหนกระแส” ภายในแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถส่งเรื่องราวการถูกหลอกลวงไปถึงทีมงานรายการได้โดยตรงและปลอดภัย

นอกจากนี้ยังร่วมมือกับแสนสิริ บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สร้างคอมมูนิตี้ที่ปลอดภัยและน่าอยู่ เพื่อส่งความห่วงใยถึงลูกบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่มักตกเป็นเป้าหมายของมิจฉาชีพ โครงการนี้มีการจัดกิจกรรมให้ความรู้และมอบ Whoscall Premium ให้กับลูกบ้านในโครงการแสนสิริกว่า 6,000 ครอบครัว เพื่อให้พวกเขามีเครื่องมือในการป้องกันภัย

นอกจากนี้ Whoscall ยังได้เปิดตัวบริการใหม่สำหรับภาคธุรกิจในชื่อ Whoscall Verified Member ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนของเบอร์โทรศัพท์สำหรับบริษัทหรือแบรนด์ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถรับสายได้อย่างมั่นใจ โดยข้อมูลจากสถิติชี้ว่าบริการนี้สามารถเพิ่มอัตราการรับสายและระยะเวลาการสนทนาได้ถึง 2 เท่า และที่น่าสนใจคือแม้แต่หมอดูก็เป็นหนึ่งในกลุ่มอาชีพที่เข้ามาใช้บริการนี้ เพราะจำเป็นต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าที่มักจะลังเลที่จะรับสายเบอร์แปลก

ในอนาคตอันใกล้ Whoscall ยังมีแผนที่จะร่วมมือกับบอทน้อย เพื่อเพิ่มการยืนยันตัวตนสำหรับสายที่โทรเข้าโดยบอท ทำให้มั่นใจได้ว่าสายโทรศัพท์ทุกสาย ไม่ว่าจะจากคนหรือจาก AI ล้วนมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัย

ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เวที AI Summit 2025: ธุรกิจ-จริยธรรม-กฎหมาย 3 มิติสำคัญขับเคลื่อน AI ไทย

เปิดฉาก Medical Fair 2025 ใหญ่สุดรอบ 2 ทศวรรษดันไทยศูนย์กลางสุขภาพ

×

Share

ผู้เขียน