งาน Medical Fair Thailand 2025 ครั้งที่ 11 ได้เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยการจัดงานครั้งนี้นับเป็นครั้งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี ด้วยจำนวนผู้แสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย จากกว่า 30 ประเทศทั่วโลก บนพื้นที่จัดแสดงกว่า 20,000 ตารางเมตร และพาวิลเลียนนานาชาติ 20 แห่ง ซึ่งรวมถึงพาวิลเลียนจากแคลิฟอร์เนียที่เข้าร่วมเป็นครั้งแรก อันเป็นเครื่องชี้วัดสำคัญถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) และเป็นเวทีสำหรับการแลกเปลี่ยนนวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านสุขภาพของภูมิภาค
ยกระดับสู่แพลตฟอร์มสุขภาพนานาชาติ
ในพิธีเปิด เกอร์นอท ริงลิ่ง (Gernot Ringling) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย (Messe Düsseldorf Asia) บริษัทผู้จัดงานจากเยอรมนี ระบุว่า Medical Fair Thailand เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย MEDIC.ALL Asia ซึ่งขับเคลื่อนโดยผู้จัดงาน MEDICA ในประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้งานในประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ทรงพลังซึ่งเชื่อมโยงอาเซียนสู่เวทีโลก โดยได้พัฒนาสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญในการจัดหาเทคโนโลยี เป็นเวทีสำหรับผู้นำทางความคิด และเป็นศูนย์กลางเครือข่ายสำหรับซัพพลายเออร์และผู้มีอำนาจตัดสินใจจากทั่วโลก
การจัดงานในปีนี้มีการนำเสนอโซนพิเศษที่ตอบสนองต่อแนวโน้มสำคัญของอุตสาหกรรม ได้แก่ Community Care Zone ซึ่งมุ่งเน้นเทคโนโลยีสำหรับสังคมผู้สูงอายุ, Medical Manufacturing Zone ที่จัดแสดงห่วงโซ่อุปทานการผลิตเครื่องมือแพทย์ และ Launchpad Zone สำหรับผู้ประกอบการและนวัตกรรายใหม่ นอกจากนี้ยังมีการจัดประชุมและสัมมนาที่น่าสนใจ อาทิ Medical Manufacturing Conference ร่วมกับ Frost and Sullivan, Wearable Technologies Conference Asia และ Cytex Digital Health and Biotech
ตัวเลขผู้ลงทะเบียนล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับการจัดงานครั้งก่อน และคาดการณ์จำนวนผู้เข้าชมงานกว่า 12,000 คน สะท้อนถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีคณะผู้แทนจากโรงพยาบาลและสถานพยาบาลทั่วประเทศ รวมถึงคณะผู้แทนจากต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วมงาน
มุมมองผู้นำอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพ
มุมมองจากภาคเอกชนของไทยสะท้อนภาพความสำเร็จและความท้าทายของอุตสาหกรรม โดย นพ.ไพบูลย์ เอกแสงศรี นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ชี้ว่า ประเทศไทยมีชื่อเสียงในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลก จากมาตรฐานการรักษาระดับสากลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย แต่ปัจจุบันอุตสาหกรรมกำลังเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ ทั้งการขยายตัวของสังคมผู้สูงวัย และการตื่นตัวด้านนวัตกรรมเอไอ ดิจิทัลเฮลธ์ และการแพทย์แม่นยำ ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนยังคงต้องมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนบริการด้วยนวัตกรรมและการลงทุน
“สมาคมโรงพยาบาลเอกชนไทยมีความยินดีต่อการร่วมสนับสนุนการจัดงาน MEDICAL FAIR THAILEND 2025 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการเปิดโอกาสให้ได้เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างความร่วมมือกับนานาชาติ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อการรักษาผู้ป่วย โดยเชื่อมั่นว่าด้วยการสนับสนุนระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาคเอกชน จะสามารถยกระดับมาตรฐานการดูแลสุขภาพของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนให้ก้าวหน้าต่อไปได้อย่างยั่งยืน” นพ.ไพบูลย์ กล่าว
ด้าน ภก.ปรีชา พันธุ์ติเวช นายกสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเครื่องมือแพทย์ไทย (THAIMED) กล่าวว่า อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์เป็นภาคเศรษฐกิจเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ปัจจุบันประเทศไทยได้พัฒนาจากผู้นำเข้าเทคโนโลยีไปสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตของอาเซียน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการผลักดันเป้าหมายเศรษฐกิจสุขภาพ (Health Economy) มูลค่า 690,000 ล้านบาทในปี 2568

“งาน MEDICAL FAIR THAILAND 2025 มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงผู้ประกอบการ ผู้ผลิต นักวิจัย ซัพพลายเออร์ บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่จะมาร่วมกำหนดทิศทางอนาคตด้านการแพทย์และสาธารณสุข พร้อมทั้งเป็นเวทีแสดงศักยภาพ แลกเปลี่ยนความรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง” ภก.ปรีชา กล่าว
ขณะที่ ภก.ดร.เชิญพร เต็งอำนวย รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า งานนี้เป็นกลไกในการนำเทคโนโลยีและโซลูชันใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ในภาคสาธารณสุขและภาคอุตสาหกรรมของไทย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศในการเป็นศูนย์กลางด้านการดูแลสุขภาพของโลก
Medical Fair Thailand 2025 ไม่เพียงแต่เป็นการจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีทางการแพทย์ แต่ยังทำหน้าที่เป็นเวทีทางยุทธศาสตร์ในการสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางธุรกิจ ผลักดันนวัตกรรม และกำหนดทิศทางอนาคตของระบบนิเวศด้านสุขภาพของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
‘จากอาหารเพื่อยังชีพ สู่อาหารเพื่อสุขภาวะที่ยืนยาว’ เมกะเทรนด์ในยุค Healthspan
Jerome Ribot เผยวิธีทำงานร่วมกับ AI เปลี่ยนความกลัวให้เป็นโอกาส