กรีนเยลโล่ ประเทศไทย ประกาศผลการดำเนินงานปี 2568 เติบโตแข็งแกร่ง เผยตัวเลขการลงทุนในเอเชียทะลุ 11,000 ล้านบาท พร้อมเปิดวิสัยทัศน์ใหม่ มุ่งสู่การเป็นพันธมิตรการเปลี่ยนผ่านพลังงานครบวงจร เดินเกมรุกผ่านการควบรวมกิจการ (M&A) และขยายความร่วมมือสู่โครงการภาครัฐ เพื่อรองรับความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์
จีรภา ธงสว่างวงศ์ศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท กรีนเยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้สรุปผลการดำเนินงานและแถลงทิศทางกลยุทธ์ของบริษัท โดยระบุว่ากรีนเยลโล่ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดระดับโลกที่ก่อตั้งในประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2550 ได้เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคตั้งอยู่ในประเทศไทย
ปัจจุบันบริษัทได้เข้าไปเป็นพันธมิตรระยะยาวให้กับองค์กรธุรกิจจำนวนมาก เพื่อวางแผนและดำเนินงานตามเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด (Energy Transition) และการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และ Net Zero
โมเดล “Zero CAPEX” จุดเปลี่ยนสำคัญขององค์กรธุรกิจ
จุดแข็งที่ทำให้กรีนเยลโล่ได้รับการยอมรับในภาคธุรกิจ คือรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าภาคเอกชน (Private PPA) ที่บริษัทจะเป็นผู้ลงทุนโครงการให้ทั้งหมด 100% (Fully Funded) โดยมีแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่งจากผู้ถือหุ้นหลักระดับโลกอย่าง Ardian และ BPI France ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนของฝรั่งเศส บริการของกรีนเยลโล่ครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษา ออกแบบ จัดหาเทียร์ 1 เทคโนโลยี ขอใบอนุญาต ก่อสร้าง ไปจนถึงการดำเนินงานและบำรุงรักษาตลอดอายุสัญญา 15-20 ปี โดยลูกค้าไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนเริ่มต้น (Zero CAPEX) และไม่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Zero OPEX)
ภายใต้โมเดลดังกล่าว ลูกค้าจะชำระเพียงค่าไฟฟ้าในอัตราที่ลดลงจากการไฟฟ้าฯ ซึ่งกรีนเยลโล่การันตีส่วนลดสูงสุดถึง 30-50% และหลังจากสิ้นสุดสัญญา บริษัทจะทำการโอนทรัพย์สินทั้งหมดของโครงการให้กับลูกค้าในราคา 1 บาท พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ในการบริหารจัดการทั้งหมด นอกจากนี้ จุดเด่นที่แตกต่างคือกรีนเยลโล่จะมอบคาร์บอนเครดิตที่เกิดขึ้นจากโครงการให้กับลูกค้า 100% เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนและการส่งออก
“ลูกค้าหลายรายมีงบประมาณพร้อมลงทุน แต่เลือกที่จะร่วมงานกับเราเพราะต้องการผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลักของตนเองได้อย่างเต็มที่” จีรภา กล่าว
ผลประกอบการปี 2568 เติบโตเหนือเป้าหมาย
ในปี 2568 กรีนเยลโล่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยธุรกิจโซลาร์ PPA เติบโตสูงกว่าเป้าหมาย 38% ขณะที่ธุรกิจด้านการเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency) ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ มีการเติบโตสูงถึง 600%
ปัจจุบัน บริษัทได้ลงนามสัญญาในภูมิภาคเอเชียไปแล้วกว่า 430 เมกะวัตต์พีค จากทั้งหมด 400 กว่าสัญญา โดยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นโครงการในประเทศไทย (200 กว่าสัญญา) และได้ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ไปแล้วถึง 344 เมกะวัตต์ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการลงทุนและดำเนินโครงการได้จริงอย่างรวดเร็ว
หนึ่งในโครงการสำคัญคือการติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้กับแม็คโคร 50 สาขาทั่วประเทศ ขนาดกำลังผลิตรวม 30 เมกะวัตต์พีค และล่าสุดคือการร่วมมือกับการบินไทย ซึ่งไม่เพียงช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการปรับภาพลักษณ์องค์กรสู่การเป็นสายการบินสีเขียว เพื่อเตรียมความพร้อมกลับเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
กรีนเยลโล่มีฐานลูกค้ากว่า 80 ราย ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรม และกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในกลุ่มธุรกิจ Hospitality โดยได้ลงนามสัญญากับเครือโรงแรมชั้นนำ เช่น Hilton, Crowne Plaza, Holiday Inn และ Marriott รวมถึง 7 สัญญากับเครือ Fico Group
4 เสาหลักทางธุรกิจขับเคลื่อนพลังงานสะอาด
การดำเนินงานของกรีนเยลโล่ตั้งอยู่บนกลุ่มธุรกิจหลัก 4 ด้านที่ขับเคลื่อนการใช้พลังงานสะอาดอย่างครบวงจร ด้านแรกคือ โซลาร์ (Solar PPA) ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก ให้บริการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ทุกรูปแบบ
ถัดมาคือ การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน (Energy Efficiency) ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโซลูชันระบบทำความเย็น (Cooling as a Service) ที่สามารถช่วยลูกค้าโรงแรมลดการใช้พลังงานของระบบ Chiller จากเดิม 2.0 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อตัน เหลือเพียง 0.75 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อตัน
นอกจากนี้ยังมี ระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Storage) ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง โดยจะถูกนำเสนอในรูปแบบ Hybrid Model ควบคู่กับโซลาร์ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่มีการดำเนินงานในช่วงเวลากลางคืน และสุดท้ายคือ ยานยนต์ไฟฟ้า (EV Mobility) ซึ่งบริษัทได้เริ่มโครงการนำร่องในการติดตั้งสถานีชาร์จควบคู่กับระบบโซลาร์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การสัญจรแห่งอนาคต
ทิศทางกลยุทธ์: M&A รุกภาครัฐ ปลดล็อก Direct PPA
สำหรับทิศทางในอนาคต กรีนเยลโล่ได้วางกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจน โดยจะยังคงขยายธุรกิจในกลุ่มลูกค้าองค์กร (C&I) อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเติบโตผ่านการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งเป็นกลยุทธ์ใหม่เพื่อเข้าซื้อโครงการจากผู้พัฒนารายอื่นที่อาจประสบปัญหาด้านเงินทุน เพื่อให้โครงการพลังงานสะอาดสามารถเกิดขึ้นได้จริง
โดยล่าสุดได้มีการเข้าซื้อโครงการขนาด 20 เมกะวัตต์ และที่สำคัญคือการขยายความร่วมมือไปสู่ภาครัฐและโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นมิติใหม่จากเดิมที่เน้นเฉพาะภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) และรองรับการลงทุนขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์
คุณจีรภาเน้นย้ำถึงความสำคัญของนโยบาย Direct PPA ซึ่งจะอนุญาตให้เอกชนสามารถซื้อขายไฟฟ้าพลังงานสะอาดผ่านสายส่งของภาครัฐได้โดยตรง
“เราคาดหวังว่านโยบายนี้จะได้รับการอนุมัติในเร็ว ๆ นี้ เพื่อปลดล็อกการลงทุนของดาต้าเซ็นเตอร์ระดับโลกในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะมีโควต้ารวมสูงถึง 2,000 เมกะวัตต์ กรีนเยลโล่พร้อมที่จะเป็นหนึ่งในนักลงทุนรายสำคัญเพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนใหม่ๆ และสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงานของประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
คิดก่อนทำ: สวทช. ชู ‘ออกแบบเพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน’ สร้างธุรกิจยั่งยืนจากต้นน้ำ
อานิสงส์จากการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืน
