ETDA เปิดแผนยุทธศาสตร์ปี 2569 ขับเคลื่อน 4 แกนหลัก ได้แก่ Digital ID, ธรรมาภิบาล AI, การกำกับดูแลแพลตฟอร์ม และการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก
ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) แถลงแผนการดำเนินงานสำคัญสำหรับปีงบประมาณ 2568-2569 โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัล (Digital GDP) มีสัดส่วน 30% ของ GDP ประเทศภายในปี 2570 แผนงานดังกล่าวจะมุ่งเน้นการดำเนินงานใน 4 ด้านหลัก ได้แก่ การขยายผลโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital ID, การสร้างธรรมาภิบาลปัญญาประดิษฐ์ การกำกับดูแลธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และการส่งเสริมผู้ประกอบการ SME และวิสาหกิจชุมชน
ขยายโครงสร้างพื้นฐาน Digital ID สู่ทุกกลุ่มเป้าหมาย
ETDA มีแผนขยายผลการใช้งาน Digital ID ให้ครอบคลุมการใช้งานในสามกลุ่มหลัก โดยสำหรับนิติบุคคล จะมุ่งแก้ปัญหาความน่าเชื่อถือในการทำธุรกรรมออนไลน์ ด้วยการสร้างระบบนิเวศที่เชื่อมโยงพันธมิตรภาครัฐและเอกชน เพื่อตรวจสอบข้อมูลสำคัญครบวงจร ทั้งการยืนยันเอกสารรับรองบริษัท อำนาจกรรมการ ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ และตราประทับบริษัท ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการขอสินเชื่อและการยื่นขอใบอนุญาตจากภาครัฐ
สำหรับคนต่างชาติ ได้มีการร่วมมือกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เพื่อสร้างกลไกการตรวจสอบและยืนยันตัวตนที่น่าเชื่อถือ และสำหรับกลุ่มเปราะบาง จะมีการผลักดันแนวคิด “Caregiver ID” เพื่อให้ผู้ดูแลตามกฎหมายสามารถทำธุรกรรมแทนเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการได้ โดยจะนำร่องใช้งานกับแอปพลิเคชัน “หมอพร้อม” ใน 3 บริการหลัก คือ การพบแพทย์ทางไกล (Telemedicine) การเข้าถึงประวัติการรักษา และการจองคิวนัดหมายแพทย์ นอกจากนี้ ยังมีการหารือร่วมกับมูลนิธิบิลล์และเมลินดา เกตส์ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือกลุ่มผู้ด้อยโอกาสให้เข้าถึงสวัสดิการภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัล
วางกรอบธรรมาภิบาล AI สร้างความพร้อมก่อนออกกฎหมาย
สำหรับนโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ETDA จะใช้แนวทาง “สร้างธรรมาภิบาลและความพร้อม” ก่อนการออกกฎหมายกำกับดูแลที่เข้มงวด เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมในประเทศ โดยได้ร่วมมือกับ UNESCO ในการวางกรอบจริยธรรม AI และประสบความสำเร็จในการจัดงาน Global Forum on the Ethics of AI ซึ่งมีผู้แทนจาก 90 ประเทศและรัฐมนตรี 32 คนเข้าร่วม ตอกย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก
แผนงานหลักในปี 2569 คือโครงการ “Train the Trainer” ซึ่งเป็นการสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัย เพื่อฝึกอบรมหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดให้มีความพร้อมในการประยุกต์ใช้ AI อย่างมีจริยธรรม พร้อมกันนี้ ETDA ได้เสนอตัวต่อ UNESCO เพื่อจัดตั้ง “ศูนย์ฝึกอบรมด้านปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรม (AI Thailand Practice Center)” โดยมีเป้าหมายให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้าน AI ของภูมิภาคสำหรับประเทศกำลังพัฒนา
–“Sovereign AI” ยุทธศาสตร์ AI ไทยชู ‘ข้อมูล’ นำทัพสร้างความมั่นคง
บังคับใช้กฎหมายกำกับดูแลแพลตฟอร์มสร้างความเป็นธรรมและความปลอดภัย
ภายใต้ พ.ร.ฎ. การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลฯ (กฎหมาย DPS) ETDA จะเดินหน้าบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยในกลุ่มธุรกิจ E-commerce ได้มีการประกาศรายชื่อ 19 แพลตฟอร์ม (และเตรียมเพิ่มอีก 3) ที่ต้องปฏิบัติตามเกณฑ์การกำกับดูแลภายในสิ้นปีนี้
ซึ่งรวมถึงการยืนยันตัวตนผู้ค้า (Know Your Merchant) และการตรวจสอบมาตรฐานสินค้า (มอก./อย.) ส่วนบริการ Ride-Sharing ได้ออกประกาศให้แพลตฟอร์มต้องรับผิดชอบในการตรวจสอบให้ผู้ขับขี่และยานพาหนะเป็นไปตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก เพื่อแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัยที่ยืดเยื้อมานาน
ขณะเดียวกัน ได้ยกระดับศูนย์รับเรื่องร้องเรียนออนไลน์ 1212 โดยร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและ สคบ. เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถแจ้งความดำเนินคดีได้ในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องยื่นเรื่องร้องเรียนซ้ำซ้อน
ส่งเสริม SME และชุมชนติดอาวุธดิจิทัลสู่เศรษฐกิจฐานราก
ETDA ยังคงดำเนินภารกิจในการส่งเสริมให้เศรษฐกิจฐานรากได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีโครงการสนับสนุน SME ในการนำ AI และเครื่องมือดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน ซึ่งจะขยายพื้นที่ดำเนินงานจาก 2 ภูมิภาคเป็น 4 ภูมิภาคในปีหน้า โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง สสว. และ SME D Bank เพื่อให้การสนับสนุนเป็นไปอย่างครบวงจร
สำหรับวิสาหกิจชุมชน จะมุ่งเน้นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น แพลตฟอร์ม Digital Community Thailand และการต่อยอดสู่การเป็นสินค้า OTOP โดยการดำเนินงานทั้งหมดจะตั้งอยู่บนรากฐานของการสร้าง “ความรู้ดิจิทัล” (Digital Literacy) ผ่านเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อาสาสมัครดิจิทัล (อสด.) ของกระทรวงดีอีเอส และอาสาสมัครเทคโนโลยีของกรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้เศรษฐกิจจากฐานรากอย่างยั่งยืน
ข่าวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สวทช. โชว์ ‘แพลตฟอร์มการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ’ คว้ารางวัลระดับโลก ณ กรุงปารีส
Jerome Ribot เผยวิธีทำงานร่วมกับ AI เปลี่ยนความกลัวให้เป็นโอกาส
